ภาษีนำเข้า

คำนวณภาษีนำเข้า
พ่อค้าแม่ขายทั้งหลายแหล่ สงสัยและมีข้อสอบถามมายัง khonoffice ว่าหากต้องการนำเข้าสินค้ามาขายจะต้องทำอย่างไรบ้าง จริง ๆ แล้วมีบริษัทที่ให้บริการแบบครบวงจรโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แค่จ่ายเงินเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ขอกล่าวถึงบริษัทนั้นแล้วกันน่ะค่ะ เดี๋ยวเขาจะงานเยอะ - _ - แต่สิ่งที่เราควรรู้ คือ อัตราภาษีนำเข้า ค่าใช้จ่ายด้านภาษีต่าง ๆ เพราะ มีผลต่อราคาสินค้าที่เรานำมาขาย ต้องคำนวณต้นทุนให้ดี ไม่เช่นนั้น อาจเป็นลมได้
มาทำความรู้จักกัน CIF คืออะไร
C คือ Cost of goods sold คือราคาของสินค้า ณ ราคาส่งมอบถึงท่าเรือI คือ Insurance = ค่าประกันภัยที่อาจเกิดจากการขนส่งทางทะเล F คือ Freight = ค่าขนส่งสินค้า จากท่าเรือต้นทางถึงท่าเรือปลายทางในต่างประเทศ
วิธีคำนวณ
C คือ ราคาสินค้าI คือ ค่าประกันโดยคิด 1% ของราคาสินค้าF คือ ค่าขนส่ง ซึ่งจะคิดจากน้ำหนักสินค้า
ตัวอย่างเช่น
Product Dimension : 17 X 7 X 44 inch น้ำหนัก 10 กก.
ซึ่งน้ำหนักจริง จะได้เป็น 10 กก. ก็จริง แต่ Shipping weight จะดูน้ำหนักสินค้าเมื่อแพคลงกล่อง แล้วนำมาเทียบกับ Dimension หากอันไหนมีค่าเยอะกว่าก็จะเลือกน้ำหนักนั้น แต่ส่วนใหญ่จะเลือก Shipping weight ทั้งนั้น
ดังนั้นเมื่อ ขนาดน้ำหนักจริง 10 กก.
ขนาดน้ำหนัก คำนวณจาก Dimension 17 X 7 X 44 /305 kg = 17.16เพราะฉะนั้นเราจะได้ค่า Shipping weight = 17 kg
จากนั้นนำมาคำนวณภาษีนำเข้าC=ราคาสินค้า + I=ค่าประกันสินค้า (คิด 1% จากราคาสินค้า) + F=ค่าขนส่งสินค้ารายละเอียดคือ C:ราคาสินค้า (3200 บาท) I:ค่าประกัน1%จากราคาสินค้า (32 บาท) F:ค่าขนส่ง (350 บาท)C:3200+I:32+F:17X350 =9182 บาท
CIF จะเป็นฐานในการคิดภาษีเท่านั้น เราต้องนำค่า CIF ไปคิดภาษีนำเข้า ตามชนิดสินค้า ซึ่งสามารถเช็คพิกัดสินค้าได้จากลิงค์ด้านล่างค่ะ

เมื่อเช็คอัตราภาษีแล้ว สมมุติว่า ได้อัตราภาษีนำเข้า คือ 10%ก็จะคำนวณภาษีนำเข้าได้ดังนี้ CIF X 10%
9182 X 10% = 918 บาท
คำนวณ VAT 7% 9182 X 7% = 643 บาทรวมภาษีที่ต้องจ่าย 1561 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น