การตลาดสร้างสรรค์ (Creative Marketing) ตอนที่ 1

              ก่อนอื่นต้องขอกล่าวถึงการตลาดยุคเดิม หัวใจความสำเร็จจะอยู่ที่การปลุกกระแสการรับรู้ให้ได้อย่างเร็ว การกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากที่สุด ยึดพื้นที่ตำแหน่งในร้านค้าที่ดีมีคนเห็น เช่น หน้าร้าน พื้นที่จูงใจให้เกิดการทดลองฟรี และ ซื้อง่ายด้วยรายการส่งเสริมการขายที่แรง เช่น ลด 20% มีของแถมพิเศษ ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เป็นต้น ขบวนการ แบบเดิมจะเริ่มจาก มีแนวคิดสินค้าใหม่ แล้วก็วิจัยพัฒนา แล้วค่อยหาตลาดและช่องทางการขายทีหลัง ขบวนการแบบนี้คือขบวนการแบบเส้นตรงทำจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำเป็นขั้น แต่ปัจจุบันกระแสการเปลี่ยนแปลงหลักๆที่ทำให้การตลาดและธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันคือ

             1. การพลิกโฉมหน้าธุรกิจกินเวลาสั้นกว่าเดิม ปัจจุบัน ภาพยนตร์ มีอายุฉายในโรงเพียง 7-10 วัน เพลงมีโอกาสติดตลาดเพียง 1 เดือน หนังสือมีโอกาสโชว์ตัวหน้าร้านเพียง 1 สัปดาห์ แฟชั่นเปลี่ยนจากออกเป็น Collection เช่น หน้าร้อน Spring/Summer หน้าหนาว Autumn/Winter เป็นผลิต 12,000 แบบต่อปี ใช้เวลา 10 วันตั้งแต่ออกแบบจนถึงเป็นตัวสำเร็จรูปพร้อมขาย เครื่องถ่ายเอกสารจากระบบ อนาล็อกเข้าสู่ระบบดิจิตอลทำได้หลายหน้าที่ทั้ง ถ่ายเอกสาร พิมพ์งาน แฟกซ์ อีเมล์ กล้องจากระบบฟิล์มเปลี่ยนเป็นกล้องดิจิตอล เพลงกำลังจะเปลี่ยนจากเทปคลาสเซ็ท และ ซีดี เป็น MP3 เราพอสรุปยุคหน้าของประวัติศาสตร์มีการพลิกเปลี่ยนไปในด้านกลยุทธ์นั้นกินเวลาสั้นลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะเร็วขึ้นธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์ให้ทัน
เราจะเห็นว่าจากยุค Mass การผลิตแบบอุตสาหกรรมปริมาณมากๆ สู่ยุคคุณภาพของญี่ปุ่นใช้เวลากว่า 20 ปี

             จากยุคคุณภาพสู่ยุคสร้างนวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ R&D เน้นการออกแบบ Design ใช้เวลาเพียง 10 ปี ทุกบริษัทต่างเน้นการออกผลิตภัณฑ์ลูกหลาน เหลน โหลน เต็มไปหมด
จากยุคพัฒนาความต่างด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ สู่ยุคบริการ Service สนองความพอใจลูกค้าที่เป็นเลิศ ใช้เวลาเหลือ 5 ปี ทุกบริษัทเน้นบริการสู่ความเป็นเลิศ บริการทุกระดับประทับใจ พอใจ บริษัทเน้นการวัดความพึงพอใจลูกค้า

            จากยุคบริการ Service เข้าสู่ยุค บริหารความสัมพันธ์ลูกค้า CRMใช้เวลา 3 ปีทุกบริษัทหันมาสร้างลูกค้าขาประจำและแฟนพันธุ์แท้เต็มไปหมด มีฐานข้อมูลลูกค้ามีบัตรสมาชิก เที่ยว ดื่ม กิน ช็อป บ่อย

           จากยุคบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าสู่ยุคบริหารประสบการณ์ลูกค้า Experience Management กินเวลาเพียง 1 ปี เน้นสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่ลูกค้าไม่เคยได้รับให้ลูกค้า

            2. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงความต้องการลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การตอบสนองลูกค้าต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว sense and response จนเกิดบวนการ Quick Response-QR ซึ่งก็คือ ตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว สมมุติว่าลูกค้าสั่งสินค้า แล้วขอข้อแนะนำจากเรา และขอออกแบบด้วยตัวเอง แล้วให้เราผลิตให้ได้ภายใน 10 วัน ต่อมาลูกค้าก็ขอแก้ไขแบบ แต่เราก็ยังคงต้องส่งของให้ทันตามเดิม เช่นเปลี่ยนสี เปลี่ยนแบบ เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ เปลี่ยนส่วนผสมใหม่ ความเสี่ยงคือเราต้องทำงานอย่างรวดเร็วในการตอบสนองลูกค้า ขณะที่จะต้องมีความยืดหยุ่นสูงในการ ตอบสนอง เช่น Dell จะผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะตามคำสั่งซื้อเฉพาะลูกค้าเป็นรายๆไป เครื่องสำอางผลิตสูตรเฉพาะให้ลูกค้าขึ้นกับสภาพผิวของลูกค้า และการใช้ชีวิตประจำวันลูกค้าว่าอยู่นอกอาคาร หรือทำงานในสำนักงานนั่งอยู่กับที่ นอนดึกชอบเที่ยวกลางคืน ขณะเดียวกันหน้าร้านที่ขายสินค้าแต่ละจุดจะรู้ว่าสินค้า ขนาด สี รสชาติ กลิ่นใด ขายดี ไม่ดี มีการโยกย้ายสินค้า ระหว่างหน้าร้าน ไม่ให้มีสินค้าขายหรือ สินค้าที่เป็นสต๊อกที่ขายไม่ได้คงค้างอยู่นาน และพนักงานหน้าร้านจะรู้ว่าสินค้าอะไรขายก็จะสั่งเฉพาะสินค้าที่ขายได้ สต๊อกก็ไม่บวม ปัญหาที่พบในระดับการใช้งานคือ ซอฟแวร์ที่มีอยู่ไม่ทันสมัย หรือแต่เดิมไว้ใช้ในการควบคุมสต๊อคสินค้าและทางบัญชี จึงใช้ประโยชน์ได้น้อยกับการตลาดซึ่งมีการใช้งานข้อมูลในรอบที่รวดเร็วรู้ผลนาทีต่อนาที แทนที่จะเป็นรอบเดือนแบบระบบบัญชี และข้อมูลที่มีอยู่เดิม ในระบบบริหารสต๊อก Inventory Management จึงไม่สามารถตอบโจทย์ทางการตลาดที่มีลักษณะเคลื่อนไหวเร็วโต้ตอบเร็วได้ ข้อมูลเดิมเองก็ไม่สามารถนำมาปรับแต่งให้เข้ากับระบบฐานข้อมูลใหม่ ข้อเสนอแนะคือ ซอฟแวร์ที่ท่านใช้ต้องคืนทุนใน 18 เดือน และพร้อมที่จะปรับปรุง Upgrade หรือ ปรับเปลี่ยนไปเลย เป็นตัวใหม่โดยนำข้อมูลเดิมมาเข้าระบบใหม่ได้ทันที อย่ามัวมะงุมมะงาหรา อยู่เพราะคนอื่นเขามีข้อมูลสถานการณ์ตลาดที่ทันสมัยกว่าท่าน การตัดสินใจคู่แข่งย่อมดีกว่าท่าน เพราะข้อมูลที่ท่านมีอยู่มันเป็นอดีต ในขณะที่ข้อมูลคู่แข่งมีเป็นปัจจุบัน

           3. Low cost การลดต้นทุนให้ต่ำเพื่อขายให้ได้ราคาต่ำกินตลาดวงกว้าง Mass เช่น Low cost Airline ใช้เครื่องบินมือสองลำเล็กและบรรจุผู้โดยสารให้เต็มลำซึ่งแน่นอนผู้โดยสารที่มาก่อนก็ต้องรอ และใช้พนักงานน้อยกว่าสายการบินราคาปกติ ไม่เสิร์ฟอาหารบนเครื่องบินเพื่อลดพนักงานบนเครื่องและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับอาหาร การจัดการ เรื่องอาหารที่ยุ่งยาก หรือกรณีการขายผ่านหน้าร้าน หน้าร้านจะบริหาร สต๊อกต่ำสั่งเฉพาะสินค้าที่ขายได้และสั่งน้อยๆแต่สั่งบ่อยๆ เช่น ร้านแฟชั่น ZARA จะมีสต๊อกสินค้าต่อแบบต่อสีต่อไซด์เพียงอย่างละตัวเท่านั้น และจะสั่งชดเชย สต๊อกที่ขายไป สัปดาห์ละ 2 ครั้ง คำสั่งซื้อจะถูกรวมจากทุกร้านและส่งไปยังศูนย์รับคำสั่งซื้อ และทำการผลิตกลับมาภายใน 7วัน ลดขั้นตอนการทำงานลงเพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้นมีประสิทธิภาพสูง ขั้นตอนไหนทำร่วมกันได้ ใช้ชิ้นส่วนประกอบร่วมกันได้เป็นการลดต้นทุนผลิตและสต๊อกชิ้นส่วนในขณะผลิตไปในตัว ลดข้อยุ่งยากในการทำงานเช่นต้องมีการรายงาน การประชุม การรออนุมัติ ตัดสินใจจากฝ่ายจัดการก่อนดำเนินการได้ ในอนาคต GE จะลดพนักงานระดับกลางลงเหลือเพียง 20% เพราะอะไร เพราะเขาจะลดข้อยุ่งยากจากการต้องผ่านตัวกลางตัวกรอง ซื่งบ่อยครั้งตัวกลางตัวกรองทำให้งานล่าช้าและไปผิดทาง โดยบริษัทต่างๆจะใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาจัดการบริหารและสื่อสารไปยังผู้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

ศราวุฒิ พัฒนชัย
ปรับปรุงและเรียบเรียงบทความ

สำหรับคนชอบ Marketing อ่านแล้วจะรู้สึกสนุกไปด้วยน่ะค่ะ (หรือ Admin คิดไปเองหว่า...T_T)

ทำ "เบลอ" ใบหน้าให้กับคนในคลิปบน YouTube

        เช้านี้ทางเว็บไซต์ arip ได้นำเสนอรายงานข่าวเกียวกับเครื่องมือใหม่ใน YouTube ที่่ช่วยให้คุณสามารถปกปิดใบหน้าของคนในคลิป เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว และป้องกันไม่ให้ใครจำได้ ด้วยทูลส์ทีมีชื่อว่า Blur All Faces หรือเครื่องมือช่วยทำให้หน้าของคนในคลิป"เบลอ" จนเห็นไม่ชัด (คล้ายเอายาหม่องไปทา :D) ซึ่งสามารถสั่งให้ YouTube จัดการได้ภายในคลิกเดียว
หลังจากขึ้นข่าวไปบนเว็บไซต์ก็ได้รับความสนใจจากผู้อ่านกันพอสมควร โดยมีผู้อ่านจำนวนหนึ่งได้สอบถามเข้ามายังกองบรรณาธิการ ซึ่งหนึ่งในคำถามยอดฮิตก็คือ แล้วขั้นตอนการใช้เครื่องมือดังกล่าวเป็นอย่างไร? ใช้ได้แล้วหรือยัง? คำตอบคือ YouTube เปิดให้สมาชิกใช้งานได้แล้ว โดยมีขั้นตอนการทำหน้า"เบลอ"โดยอัตโนมัติมีดังนี้

1. ล็อกอินบัญชีผู้ใช้ YouTube ของคุณ
2. คลิกลิงค์ชื่อผู้ใช้ (username) ที่อยู่บริเวณมุมบนขวา เลือกคำสั่ง Video Manager
3. คลิกปุ่ม Edit ของคลิปวิดีโอที่ต้องการใส่ "เบลอ" ให้กับหน้าคนในคลิป
4. เมื่อเข้าสู่หน้าแก้ไขวิดีโอให้คลิกเมนู Enhancements ที่อยู่ด้านบน
5. ในหน้าแก้ไขปรับปรุงวิดีโอจะเปิดคลิปเป็น 2 ช่องพร้อมกัน คือ คลิปต้นฉบับ (original) และพรีวิวคลิปที่ปรับแต่งแก้ไข (Quick Preview) สังเกตที่ด้านล่างของคลิป ให้คลิกปุ่ม Additional features



6. รายละเอียดของฟีเจอร์ Blur All Faces จะโผล่ขึ้นมา ให้คลิกปุ่ม Apply ที่อยู่ด้านล่าง
7. สังเกตผลลัพธ์ของการทำเบลอหน้าคนในหน้าต่าง Quick Preview หากพอใจในผลลัพธ์ที่ได้ คลิกปุ่ม Save As เป็นอันเรียบร้อย

          ไม่ยากเกินไปนะครับ สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจวิธีทำ "เบลอ" ใบหน้าคนในคลิปโดยอัตโนมัติของ YouTube อ้อ..ลืมบอกไป YouTube จะมีตัวเลือกให้ลบคลิปต้นฉบับทิ้งให้ด้วยนะครับ เพื่อช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของคนในคลิปให้ปลอดภัยที่สุดในนั่นเอง :D

ที่มาจาก: http://www.arip.co.th/tips/415374/

ส่งสินค้าออกต้องทำอย่างไรบ้าง !!!

ส่งสินค้าออกต้องทำอย่างไรบ้าง !!!

     ชื่อว่าธุรกิจของหลายท่านที่เริ่มโกอินเตอร์อาจจะมีลูกค้าต้องการสั่ง สินค้าไปลองขายหรือท่านหาลูกค้าได้แล้วลูกค้าอยากลองสั่งไปเป็น Trial order แน่นอนที่สุดว่าหากคู่ค้าที่สั่งสินค้าเป็นบริษัทใหญ่และนำเข้าสินค้ามาเป็น เวลานาน สินค้าส่วนใหญ่ที่จะส่งออกจะต้องมีการระบุวิธีการแพ็คในหีบห่อที่เป็น มาตรฐานของเขาอยู่แล้ว เพื่อให้สะดวกในการนำไปจัดจำหน่าย เหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือเพื่อให้สินค้าไปถึงปลายทางอย่างปลอดภัยไม่มี สินค้าแตก หัก ชำรุด

     ดังที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นหากลูกค้าหรือเราได้ทำการตกลงรายละเอียดไว้ เรียบ ร้อยแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร ท่านก็แค่ปฏิบัติตามที่ได้ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัดแต่หากไม่ได้ตกลงกันไว้ อาจเป็นเพราะใหม่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายในเรื่องพาเลทที่จะวางสินค้าจะเลือกพาเลทอย่างไรให้สะดวก ประหยัด และที่สำคัญที่สุด คือความปลอดภัย

หลักง่ายๆในการเลือกพาเลท
 1. อย่างแรกคือในประเทศที่เราจะส่งสินค้าไปนั้นมีการบังคับใช้ ISPM15หรือที่เรียกกันติดปากว่า IPPCไหม?
 - ศึกษาเรื่องกฎใหม่ลังไปนอก? คลิกได้ที่นี่
 - ตรวจเช็ครายชื่อประเทศที่บังคับใช้ ISPM15 , IPPC? คลิกได้ที่นี่
 - ต้องทำความเข้าใจกับISPM15และIPPC ให้เข้าใจ

2. สำหรับสินค้าที่อยู่ในกล่องหรือหีบห่อที่เป็นทรงเรขาคณิต
    เช่น กล่องสี่เหลี่ยม ทรงกระบอก ฯลฯ ที่สามารถวางเรียงกันได้ง่ายๆ บนพาเลท เวลาเรียงสินค้าบนพาเลทเพื่อใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ต้องให้กล่องหรือสินค้าที่อยู่ด้านล่างสุดสามารถรับน้ำหนักของสินค้าที่อยู่ด้านบนสุดได้ เพื่อป้องกันไม่ให้กล่องบุบ บี้ แบนเพราะสินค้าส่วนใหญ่จะต้องมีการขนย้ายหรือขายต่อไป หากกล่องที่เราส่งไปมีความเสียหายแน่นอนที่สุดว่าต้องมีใครเดือดร้อนแน่ๆซึ่งก็คงไม่พ้นเราๆท่านๆที่เป็นผู้ส่งสินค้าไปนั่นเอง

3. เรื่องต่อมาก็คือในกรณีที่สินค้าบรรจุในคอนเทนเนอร์
   ขนาดของพาเลทต้องสัมพันธ์กับขนาดของตู้คอนเทนเนอร์โดยทั่วๆไปในวงการต่างๆจะมีขนาดที่แตกต่างกัน เช่นวงการอีเลคโทรนิคส์จะนิยมใช้ขนาด 1100 x 1100 มม.หากเป็นการส่งออกไปยุโรปจะนิยมใช้พาเลท EURO( EPAL Pallet)ในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่จะนิยมขนาด1000×1200 มม.

ปัญหาที่ตามมาติดๆก็คือ หากลูกค้าไม่ได้กำหนดไว้ล่ะ?
 ถ้าสินค้าเข้าตู้และมีจำนวนไม่มากคือไม่เต็มตู้ให้ใช้ขนาด 1100 x 1100 มม.
 - ส่งสินค้าไปยุโรปให้เลือกใช้ EURO Pallet (EPAL Pallet)
 - ส่งสินค้าไปที่อื่นๆให้ใช้พาเลท 1100 x 1100 มม.

4. ส่งออกไปประเทศไหนบ้างที่ต้องระวังในเรื่องพาเลท?
    ข้อนี้บรรดาผู้ส่งออกรู้ดีเกือบทุกรายออสเตรเลียครับวิธีการส่งออกไปออสเตรเลียนี้นประเด็นสำคัญอยู่ที่ไม้ที่จะใช้ทำพาเลทจะต้องไม่มี รา เห็ด และ ลายดำๆบนไม้เด็ดขาดเพราะหน่วยงานที่ดูแลเรื่องQuarantineที่โน่นเขาเอาจริง

    ดังนั้น หากท่านต้องการส่งออกไปออสเตรเลีย ควรหาSupplierพาเลทที่ไว้ใจได้เท่านั้น

ที่มาจาก:http://palletplus.info/

เทคนิคการเขียนแผนการตลาดที่ดี


กลยุทธ์ทางการตลาด มีความต่อเนื่องมาจากการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลหรือเรียกว่าการทำวิจัยตลาด การกำหนดยุทธ์ทางการตลาดเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับกับทำธุรกิจให้มีความชัดเจนขึ้นมากขึ้น และเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับตัวสินค้า กลุ่มเป้าหมาย วิธีการขาย การประชาสัมพันธ์ ดังนั้นจึงต้องวางแผนการทางการตลาด หนึ่งในนั้นคือ เทคนิคการเขียนแผนการตลาดนั่นเอง

1.ความหมายของการตลาด
การดำเนินกิจการทางธุรกิจจำเป็นต้องคิดล่วงหน้าไว้ ถ้ากล่าวถึงเรื่องแผนการตลาด คือ แผนเพื่อหารายได้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น เปิดร้านต้องมีแผนในการขายของหน้าร้าน ถ้าผลิตสินค้าส่งไปขายนอกร้านให้ผู้แทนจำหน่ายไปขายก็คือแผนการจัดจำหน่าย คำว่า “การตลาด” ตามที่ผู้ประกอบการ เคยได้ยินตามปกติ แต่จริง ๆ แล้วมีความหมายพิเศษหลายมิติคือ

การตลาดในมิติที่ 1 คือ การซื้อ การขาย การไปตลาดเพื่อไปซื้อไปขายสินค้า ในฐานะผู้ประกอบการ หรือในฐานะผู้บริโภคก็ตาม

การตลาดในมิติที่ 2 คือ การโฆษณา ประชาสัมพันธ์เพื่อทำให้มวลชนเข้าใจว่าเรามีสินค้าอะไรบ้าง สามารถหาซื้อได้ที่ไหน อย่างไร เป็นการตลาดเชิงระบบที่ประกอบด้วยการสื่อสารเพื่อทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักและสร้างความต้องการของผู้บริโภค

การตลาดในมิติที่ 3 คือ นอกจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์แล้ว นักธุรกิจจำเป็นต้องการขนส่งสินค้าไปยังสถานที่ผู้บริโภค ซื้อหากัน หรือจัดส่งถึงที่ทำงาน หรือที่บ้าน

ผู้ประกอบการจำเป็นต้องคิดให้เพียงพอและครอบคลุม เช่น ถ้าเป็นผู้ประกอบการรายเล็กก็ไม่ต้องคิดซึ้งมาก เช่น อาจจะคิดแค่ว่าการตลาด ที่เกี่ยวกับการขายของหน้าร้าน การโฆษณา ประชาสัมพันธ์การออกร้านขายของบ้าง การใช้ใบปลิวโฆษณา การส่งสินค้าตรงตามที่กำหนด เก็บเงินให้ได้ ก็ถือว่าครบตามกระบวนการทั่วไปของการตลาด

2.ขั้นตอนการวางแผนทางการตลาด
การวางแผนทางการมี 4 ขั้นตอนด้วยกัน

2.1 การกำหนดวิสัยทัศน์
การที่ต้องนึกก่อนว่าอีก 3-4 ปีข้างหน้า ร้านเราจะเป็นร้านที่ใหญ่ ขนาดใหญ่ เช่น ถ้าสมมุติว่าเราเป็นร้านอาหาร อีก 3 ปีข้างหน้า และก็เป็นร้านที่ดังที่สุดในตำบลนี้ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเรามีเป้าแล้วเราก็จะยินคำว่า Vision ซึ่งแปลว่า วิสัยทัศน์ ส่วน Mission คือ พันธกิจ หมายความว่า จะทำให้ถึงตรงนั้นได้อย่างไร พูดง่าย ๆ ก็คือว่าเราต้องมีวัตถุประสงค์ว่าร้านเราตั้งขึ้นมาทำไม

2.2 การกำหนดยุทธศสตร์
การวางแผนทางการตลาดต้องมีแนวทางในการให้ไปถึงเป้าให้ได้ เรียกว่ายุทธศสตร์หรือกลยุทธก็ได้ โดยทั่วไปแล้วเราต้องมี ยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่น ความพยายามที่ได้รวมพลัง ไม่กระจัดกระจาย และมี กลยุทธเพื่อให้มีสมาธิในการประกอบการ เพื่อที่ให้ทีมงานมีความมุ่งมั่นไปในทิศทางเดียวกัน นั้นก็คือ การวางแผน

2.3 การกำหนดนโยบายธุรกิจ
ธุรกิจนี้ไม่ใช่แค่ว่าการตลาด แต่ยังมีการผลิต การเงิน การบริหารงานบุคคล นโยบายเป็นกติกาที่ทุกคนในองค์กรต้องปฎิบัติ สิ่งเหล่านี้เรียกว่า การวางแผนการตลาด โดยองค์รวม

3.ความสำคัญของแผนการทางการตลาด
ในการปฏิบัติอาจจะสูญเปล่าจากที่ไม่มีแผน หรือ การคิดล่วงหน้า ทำตามธรรมชาติ ข้อดีในการไม่มีแผน คือ ไม่มีความกดดัน ทางเลือกก็ไม่จำกัด แต่ก็มีข้อเสียมากมาย เช่น ถ้าไม่มีแบบแผนก็ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีการพัฒนาเพราะว่าทำตามธรรมชาติ

3.1 สามารถประเมินผลการปฎิบัติงานได้
การที่มีแผนงานจะทำให้เราสามารถประเมิน หรือ สามารถเปรียบเทียบ ทำถูกหรือทำผิดเป้าหมาย เมื่อมีการเปรียบเทียบก็จะทำให้มีการศึกษาว่า เราทำผิดหรือทำถูกเป้าหมาย และที่สำคัญคือการมีสถิติในการนำมาอ้างอิง

3.2 สร้างวัฒนธรรมเพื่อการเติบโตของกิจการ
แผนถ้าเริ่มตั้งแต่องค์กร หรือร้านขนาดเล็ก ข้อดี ก็จะเป็นการฝึกการทำงาน ไม่ใช่เป็นการรอให้องค์กรใหญ่แล้วค่อยทำ อันนั้นก็จะทำให้เสียเงินแพง แล้วก็มักจะทำให้ปรับปรุงวัฒธรรมและความเคยชินไม่ได้ค่อยได้

3.3 สามารถพัฒนาธุรกิจเพื่อสร้างการเติมโตของกิจการ
การวางแผนจะทำให้เกิดการสังเกตุผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นนำเอาข้อมูลทางการตลาดมาสนับสนุนการวางแผนและจะทำให้เกิดการพัฒนาขององค์กรพร้อมไปด้วย

4.เทคนิคสู่ความสำเร็จของแผนทางการตลาด

1. แผนการตลาดต้องสอดคล้องสัมพันธ์กับแผนธุรกิจ
แผนทางการตลาดจะต้องสอดคล้องกับแผนอื่น ๆ ด้วย เช่น แผนการผลิตสินค้า แผนการเงินต้องมีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน เพื่อความมีประสิทธิภาพ ในการนำไปปฎิบัติ

2. แผนการตลาดต้องเข้าใจง่ายสำหรับพนักงานทุกระดับ
การเขียนแผนการตลาด จะต้องทำให้พนักงานเข้าใจคำว่าให้ดีที่สุดของเราแค่ไหน แต่ถ้าบอกพนักงานว่าปีนี้เราจะโต 20 % เราก็ต้องรู้เราต้องเก่งกว่า ปีที่แล้วเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้จะเห็นได้ชัดเจน เมื่อทำงานกับคนหมู่มาก หรือการทำงานเป็นทีม เราจะต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร จำเพาะเจาะจงเป็นตัวเลข ซึ่งเป็นเทคนิคของการเขียนแผนการตลาดที่เข้าใจง่าย

3. แผนการตลาดต้องเข้าให้ความสำคัญกับเรื่องบุคคลากร
บริษัทขนาดเล็กจะมีเรื่องคนเข้ามาเกี่ยวข้องมาก ซึงจะต้องให้มีแผนการฝึกอบรมเกี่ยวกับคนเช่นกัน ตั้งแต่การเลือกลูกจ้าง การพัฒนาบุคคลกรให้มีความรู้ ความสามารถเพื่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา


ที่มา:http://www.nanosoft.co.th/maktip29.htmv

การเขียนแผน การตลาด ที่ดีควรเริ่มต้นอย่างไร..?

          คงไม่มีผู้ประกอบการใด ไม่รู้จักแผนการตลาด หากแต่การเริ่มต้นเขียนแผนการตลาดนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสักทีเดียว เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจในธุรกิจให้ถ่องแท้เสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มเขียนแผนการตลาด เพราะอย่างน้อยแผนการตลาดที่เขียนออกมาจะเป็นไปตามโครงสร้างธุรกิจที่ถูกต้องและใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด จากประสบการณ์ของผู้เขียน ได้มีข้อคิดที่อยากจะแนะนำผู้ประกอบการในธุรกิจ เอสเอ็มอีและผู้สนใจทั่วไปว่า การที่จะเขียนแผนการตลาดให้ออกมาแล้วดูดี และสามารถนำไปใช้ปฏิบัติได้ อ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ มีความสอดคล้องเป็นไปตามขั้นตอนการดำเนินงานอย่างชัดเจน ผู้เขียนจึงอยากจะเสนอกฎของการเริ่มต้นก่อนเขียนแผนการตลาด มานำเสนอ ซึ่งมีทั้งหมด 10 ข้อ ที่จะนำเสนอดังนี้

     1.  ควรมีแรงบันดาลใจ เนื่องจากแรงบันดาลใจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเขียนแผนการตลาด เพราะจะทำให้ผู้เขียนมีความรู้สึกถึงความต้องการ ความอยากที่จะสร้างโอกาสและนำเสนอแผนการต่างๆที่อยู่ในใจ ให้ออกมาอย่างมีรูปธรรมและสร้างสรรค์โอกาสในธุรกิจได้
    2.  ควรมีความมุ่งมั่น เพราะความมุ่งมั่นเป็นจุดที่จะทำให้การเขียนแผนการตลาดสำเร็จออกมาได้ เพราะหากขาดความมุ่งมั่นและให้ความใส่ใจน้อยเกินไปก็จะทำให้ไม่สามารถนำเสนอแผนการตลาดให้ออกมาดีและเหนือกว่าคู่แข่งขันได้ อย่าลืมว่าคู่แข่งขันในตลาดนั้นเขาก็ต้องใช้ความพยายามสูงสุดเช่นเดียวกับเรา เขาถึงอยู่รอดมาได้
    3.  ควรมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล เพราะการเขียนแผนการตลาดที่ดีนั้นหากไม่มีสายตาอันกว้างไกลแล้ว ก็จะไม่สามารถมองเห็นโอกาสในอนาคตได้ และจะทำให้ไม่สามารถนำเสนอแผนการตลาดที่ดีออกมาได้เช่นเดียวกัน เพราะการมีสายตาที่ยาวไกลเป็นหัวใจสำคัญของผู้ชนะในธุรกิจ
    4.  ควรมีจุดที่แตกต่าง เพราะการมีจุดประกายความคิดที่แตกต่างจะช่วยให้นำมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในด้านการวางแผนการตลาดได้เป็นอย่างดี การคิดให้แตกต่างไม่ใช่เรื่องง่ายแต่การไม่กลัวคิดยิ่งน่ากลัวกว่า ต้องถามตัวเองเสมอว่าเรามีจุดที่แตกต่างไปจากเขาอย่างไร และเหนือกว่าเขาด้านใดบ้าง และต้องไม่หลอกตัวเอง
    5.  ควรมีเวลาที่เหมาะสม เพราะการมีเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ความคิดและการวางแผนงานเป็นไปอย่างมีระบบ ระเบียบ การหาข้อมูลที่เพียงพอ การวิเคราะห์คู่แข่งขันที่ชัดเจน รวมถึงการวางแผนงบประมาณ ควรต้องสอดคล้องกัน หากแต่การให้เวลาในการเขียนแผนการตลาดที่น้อยเกินไปจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดและมีผลกระทบต่อธุรกิจได้ในระยะยาว รวมถึงการเสียเวลาและงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
    6.  ควรมีความเป็นไปได้ การเขียนแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพจะต้องสามารถปฎิบัติได้และมีความเป็นได้สูงที่จะสามารถปฎิบัติได้ตามแผนที่วางไว้ หากแต่การเขียนแผนการตลาดที่ซับซ้อนมากเกินไปอาจทำให้การปฎิบัติตามแผนการตลาดผิดพลาดได้ง่าย ด้วยเงื่อนไขของเวลา เรื่องงบประมาณและตัวบุคลากร นั่นหมายถึงต้องวิเคราะห์โอกาสและข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วยเพื่อนำแผนรองรับมาปรับใช้ หากไม่เป็นไปตามแผน
    7.  ควรมีความคิดเห็นร่วมกัน เพราะการเขียนแผนการตลาดที่ดี ไม่ใช่เกิดจากผู้เป็นเจ้าของธุรกิจหรือผู้ที่รับหน้าที่ดำเนินการแต่เพียงผู้เดียว แต่จะต้องได้รับความร่วมมือ จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งองค์กรที่มีบทบาทสำคัญ ตั้งแต่ระดับล่วงไปจนถึงระดับบนและจะต้องเป็นแผนการตลาดที่เกิดจากข้อสรุปร่วมกัน และมีการยอมรับในแผนการตลาดที่ออกมาอย่างไม่มีเงื่อนไข
    8.  ควรมีความสอดคล้องกับธุรกิจ เพราะการเขียนแผนการตลาดที่มีความสอดคล้องกับธุรกิจจะทำให้ธุรกิจได้ประโยชน์มากที่สุดโดยไม่คิดในมุมมองที่แตกต่างมากเกินไปหรือคิดนอกกรอบมากเกินไปซึ่งอาจจะทำให้ไม่สามารถตอบสนองหรือสอดคล้องไปกับธุรกิจได้ เช่น การสร้างกรอบของกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป เป็นต้น
   9. ควรมีความกล้า เพราะความกล้าเป็นหัวใจสำคัญของการเขียนแผนการตลาดที่แตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่งชันได้ ความกล้าจะต้องเป็นความกล้าที่เกิดจากความคิดที่มีสติ กล้าคิด กล้าวางแผน กล้าที่จะทำ เพราะส่วนใหญ่ที่แผนการตลาดเกิดจากความคิดที่ดี แต่เวลานำมาปฎิบัติไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเปลี่ยนแผนกลางคันหรือไม่กว้าเสี่ยง ความกล้าจึงเป็นการตอกย้ำให้เกิดความมั่นใจในการเขียนแผนการตลาด และกล้ายอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้
   10. ควรมีงบประมาณที่พอเพียง การเขียนแผนการตลาดที่ดีจะต้องคำนึงถึงงบประมาณที่เหมาะสม และจะต้องตระหนักเสมอว่าการนำเสนอแผนการตลาดที่จะประสบความสำเร็จได้จะต้องสอดคล้องไปกับงบประมาณที่วางไว้ และสามารถวางแผนการตลาดให้สอดคล้องและเหมาะสมกับงบประมาณรวมถึงสามารถทำเกิดประโยชน์จากการวางแผนมากที่สุด การเขียนแผนการตลาดและการวางแผนการตลาดที่ดี ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากและจะประสบความสำเร็จเสมอไป แต่การใช้งบประมาณที่ฉลาด มีโอกาสประสบความสำเร็จยิ่งกว่า เช่น มีคำกล่าวที่ว่า คนจะสำเร็จได้มันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เงิน แต่มันขึ้นอยู่ที่การรู้จักใช้เงิน นั้นคือคนที่จะทำอะไรแล้วมักจะได้มากกว่าเสีย

      ผู้บริหารที่เก่งและเคยสำเร็จมาแล้ว ยังคงคิดถึงแต่ความสำเร็จที่เคยทำมา แต่ลืมคิดไปว่าความสำเร็จนั้นไม่มีที่หนึ่ง เพราะวันนี้หรือพรุ่งนี้คุณมีโอกาสล้มเหลวได้เสมอ เป็นคำสอนให้คิดเสมอว่า อย่างทนงตัว อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง เหนือฟ้ายังมีฟ้า ยังใช้ได้เสมอ ความคิดของคนโง่ๆ คนหนึ่งมันอาจจะเป็นทางออกของชีวิตของคุณที่คุณหาคำตอบมาทั้งชีวิต ก็เป็นได้

      และนี่คือมุมมองของผู้เขียนที่อยากจะนำเสนอเพื่อต้องการให้ผู้ประกอบธุรกิจ เอสเอ็มอี หรือผู้สนใจทั่วไปได้เข้าใจและมีมุมมองที่แตกต่างออกไป ประกอบกับหลักวิชาการอื่นๆ เพื่อนำมาประมวลความคิด ก่อนที่จะเริ่มต้นเขียนแผนการตลาด เหมือนดังประโยคทอง ที่เป็นข้อสรุปของ คอตเลอร์ มีอยู่ 3 ข้อ คือ
1. ต้องทำให้โดนใจ
2. ต้องแตกต่าง
3. ต้องสร้างการรับรู้ได้ทันที
     เป็นการทำตลาดแบบไม่ต้องทำตลาด ซึ่งดังคำที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น แต่การทำความพยายามให้สำเร็จนั้นยิ่งยากกว่า

ขอขอบคุณ www.smesplannet.com

เปิดหน้าจอส่องดู"ชิ้นส่วน"ใน iPhone 5

      จากรายงานข่าวทีกันออกมาระบุตรงกันว่า ยิ่งมีข่าวลือเกียวกับ iPhone 5 และ iPad mini ออกมาเท่าไร มูลค่าหุ้นของ Apple ยิ่งดีดตัวสูงขึ้นเท่านั้น ทั้งยอดขายที่ทายทักว่ามันจะทะลักทะเลิด จนถึงราคาหุ้น แต่ล่าสุดก็ยังมีภาพหลุดออกมาให้ได้เห็นกันอีกจนได้สินะ - -"
เมื่อวานนี้ ทางกองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip เพิ่งจะได้นำเสนอข่าวภาพหลุดของจอแสดงผล iPhone 5 ที่ทำให้เห็นดีไซน์ของตัวเครื่องชัดเจนขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีภาพของวงจร และชิ้นส่วนที่อยู่ภายในให้ได้เห็นกันชัดเจนนัก ซึ่งภาพที่มีการนำเสนอบนเว็บจากนี้ไป ถ้าเป็นของจริง น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่ถ่ายจากโรงงานประกอบ เพราะ Apple คงต้องเร่งเครื่องผลิตเต็มกำลัง เพื่อให้สมกับที่ตลาดรอคอย ซึ่งภาพของชิ้นส่วนที่หลุดออกมาล่าสุดนี้ แหล่งข่าวที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการซ่อมแซมสมาร์ทโฟน (โดยเฉพาะ iPhone) ถึงกับออกปากว่า มันมีการจัดวางของชิ้นส่วนภายในได้อย่างลงตัวมากๆ ทีเดียว



        เว็บไซต์ iResQ ได้เผยแพร่ภาพที่อ้างว่าเป็น iPhone 5 โดยเป็นด้านในของตัวเครื่อง หลังจากที่โชว์จอแสดงผลกันไปแล้ว ซึ่งจากชิ้นส่วนที่สังเกตเห็นค่อนข้างชัดเจนว่า ด็อคกิ้งขนาดเล็กทีอยู่ตรงกลางจะได้รับการยึดติดอย่างแน่นหนาด้วยสกรูถึง 4 ตัว ถัดไปด้านซ้ายจะเป็นช่องเสียบหูฟังที่ล็อคด้วยกรอบที่แข็งแรง ส่วนวงจรการทำงานหลัก ตลอดจนโพรเซสเซอร์ถูกปิดทับด้วยส่วนที่เป็นแผ่นโลหะบางอีกทีหนึ่ง ไม่ว่าภาพถ่ายทีเห็นนี้จะเป็นจริง หรือไม่ก็ตาม ซึ่งนอกจากมันจะช่วยผลักดันให้ราคาของหุ้น Apple สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์แล้ว มันยังทำให้เหล่าเว็บไซต์ที่เผยภาพเหล่านี้ได้รับความนิยม และเป็นทีรู้จักกันมากขึ้นด้วย อีกไม่ถึงเดือน เราก็จะได้เห็นกันแล้ว ข่าวลือไหนบ้างที่เป็นเรื่ืองหลอก และมันจะมีสักชิ้นใหมที่เป็นจริง นอกจากข่าวภาพหลุดของ iPhone 5 แล้วยังมีรายงานอีกด้วยว่า Apple สั่งให้โรงงานเตรียมกำลังการผลิต เพื่อทำ iPad mini ให้ได้มากถึง 4 ล้านเครื่องต่อเดือนอีกด้วย

วิธีแชร์อินเตอร์เน็ต Wi-Fi, 3G บน iPad,iPhone ให้ PC



PDANet เป็นแอพพลิเคชั่นจาก Cydia ที่สามารถทำให้ iPad, iPhone สามารถแชร์ internet 3G, Wi-Fi ให้กับ Computer โดยผ่านทางสาย USB หรือจะทำตัวเองให้เป็น Wi-Fi Hotspot ก็สามารถทำได้ เรามาทราบถึงวิธีการทำงานของ PDANet แถมด้วย PDANet Crack ดาว์นโหลดและติดตั้งแบบ Full Version ฟรี

สิ่งที่ต้องเตรียม- iPhone, iPad
- Jailbreak เรียบร้อยแล้ว
- ติดตั้ง Source: http://Cydia.xsellize.com + ดูวิธีการใช้ Cydia ได้ที่นี่

ตัวอย่างนี้เป็นวิธีการแชร์ internet จาก iPad ให้กับ Computer หรือ Notebook ผ่านสาย USB ด้วยฟังก์ชั่น USB Tether เริ่มกันเลยครับ

STEP1: เปิด Cydia และทำการค้นหา PDANet จาก Source: http://Cydia.xsellize.com จากนั้นทำการ install เรียบร้อยแล้วก็ Restart SpringBoard ตามพิธีหนึ่งครั้ง


STEP2: เปิด PDANet ขึ้นมาดูด้านล่างจะพบว่า มีปุ่ม Register เนื่องจากยังเป็น Free version ให้ทดลองเท่านั้น สำรับใครที่ต้องการตัว Crack ทำตามได้เลยครับ


CRACK PDANet FULL VERSION
วิธี Crack PDANet ให้สามารถใช้งานได้ฟรี : iTallnews

เปิดเวปไซต์ http://k.xsellize.com/license/ จาก iPad หรือ Computer จากนั้นเลือก PDANet 5.x ใส่ Email ที่ต้องการจะลงทะเบียนลงไป และกด Generate



เราก็จะได้ Serial เพื่อทำการลงทะเบียนเพื่อ Crack PDANet แล้วหละครับ



เปิด PDANet ขึ้นมากด Register นำ Email และ Serail ที่ได้มาใส่ลงไป แล้วกด Register เท่านั้น PDANet ก็จะทำงานแบบ Full Version แล้วหละครับ



STEP3: WiFi HotSpot ฟังก์ชั่นนี้ ใช้งานได้บน iPhone (จากการทดสอบบน iPad ไม่สามารถใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้ เดี๋ยว iPad ไปใช้สาย USB ในการแชร์ internet กันครับ) ปรับ WiFi HotSpot ให้เป็น ON


ใส่ SSID ที่จะใช้เป็นชื่อ WiFi HotSpot จากนั้น WEP คือ Password ตั้งตามต้องการได้เลย ปรับ Time Out เป็น Never แล้วเลือก Activate ได้เลย ทดลองด้วยการใช้ Computer Notebook สแกนหา Wi-Fi ก็จะพบชื่อ HotSpot iTAllNews.com ที่เราได้ทำการสร้างไว้ใส่ Password แล้วใช้งานได้เลย เท่านี้เราก็สามารถจะแชร์ intenet 3G ให้กับ Computer Notebook ได้แล้ว




วิธีทำให้ iPad แชร์ 3G ให้กับ Computer Notebook ผ่านสาย USB

ก่อนอื่นทำการเปิด Computer หรือ Notebook ขึ้นมาจากนั้นทำการติดตั้ง PdaNet Desktop ลงคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คให้เรียบร้อย
Download PdaNet Desktop for 32 bit Windows 7/XP/Vista
Download PdaNet Desktop for 64 bit Vista/Windows 7
Download PdaNet Desktop for Mac

เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีไอคอน PDANet Desktop อยู่ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ


ไปที่ PDANet บน iPad เลือก USB Tether ปรับเป็น On (เปิด 3G บน iPad ต่อ internet ให้เรียบร้อยด้วย)



ต่อสาย USB Sync Data ระหว่าง iPad และ PC เข้าด้วยกัน คลิ๊กขวาที่ PDANet Desktop เลือก Connect


สำเร็จแล้ว PDANet Connected เปิด Website เพื่อทดสอบการใช้งาน internet บน Computer ได้เลยครับ


บนหน้าจอ iPad จะแสดงถึงการใช้งาน การรับส่ง Data ว่าใช้ไปเท่าไรแล้วด้วยละครับ



PDANet นับว่าเป็น Cydia App ที่จะต้องหามาไว้ติดเครื่องเลยละครับ มีรูปแบบการใช้งานที่ง่ายดาย ทั้งสะดวกต่อการใช้งาน เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถแชร์ internet หรือ 3G จาก iPad, iPhone ของเราให้กับ Computer Notebook ได้แล้ว
ที่มาจาก: http://www.itallnews.com/

เปิดร้านค้าออนไลน์กับเว็บไซต์ไหนดี(ต่อ)

ก่อนหน้านี้ได้เคยอธิบายเกี่ยวกับการเปิดร้านค้าออนไลน์กับ weloveshopping มาวันนี้จะมาอธิบายเกี่ยวกับการเปิดร้านค้าออนไลน์กับ Tarad.com ไม่พูดพร่ำทำเพลงไปบรรเลงกันเลยดีกว่าค่ะ
ที่เว็บไซต์ Tarad.com นั้น จะมีการเปิดร้านแบบซื้อ Package ซึ่งราคาค่อนข้างสูงมากเลย

ค่าธรรมเนียนการให้บริการอยู่ที่
Premium Small Packgae 12 เดือน ราคา 15,900 บาท
Premium Small Packgae 6 เดือน ราคา 8,900 บาท
ซึ่งหากมี Order การสั่งซื้อ ค่าสินค้าจะอยู่ที่เว็บไซต์ Tarad.com และเมื่อลูกค้าแจ้งได้รับสินค้า
ทาง Tarad.com ก็จะโอนเงินค่าสินค้าให้กับเรา โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- โดยเงินที่จะส่งคืนให้จะคิดจากวันที่1 - 15 ของเดือน จะโอนวันที่1 ของเดือนถัดไป
- โดยเงินที่จะส่งคืนให้จะคิดจากวันที่16-31 ของเดือน จะโอนวันที่ 16ของเดือนถัดไป

นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียนของช่องทางการชำระเงินที่ทาง Tarad.com จะโอนให้กับเราอีก
ค่าธรรมเนียมช่องทางการชำระเงิน
ช่องทางการชำระเงิน
ค่าธรรมเนียมผ่านระบบ TARADPay
(1) Credit Card , Paysabuy 2.5% ต่อรายการ
(2) ผ่อนชำระบัตรเครดิต 2% ต่อรายการ
(3) Paypal 4% ต่อรายการ
(4) Counter service ฟรี
(5) Mpay ฟรี
(6) โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ฟรี

ก็อย่างที่บอกน่ะค่ะ Khonoffice ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเว็บไซต์ และก็ไม่ได้เปิดร้านค้าออนไลน์กับทั้ง 2 เว็บไซต์ด้วยค่ะ

แต่ Khonoffice มาทำด้วยตัวเอง ค่อยเป็นค่อยไป ลงทุนทีละนิด แล้วแต่กำไรที่พึ่งมีค่ะ ยังไงพ่อค้าแม่ขายก็อดทนสู้กันต่อไปน่ะค่ะ

Khonoffice เปิดร้านค้าออนไลน์แล้วค่ะ


หลังจากที่ศึกษาเรื่องการเปิดร้านค้าออนไลน์มานาน ตอนนี้ Khonoffice ได้ทำการเปิดร้านค้าออนไลน์แล้วค่ะ ตอนนี้เปิดร้านไว้ 2 ร้านค่ะ
อันแรกเป็นเว็บไซต์ www.sawasdeekorea.com เป็นเว็บเกี่ยวกับขายสินค้าเกาหลี สินค้าเกาหลีแท้ ๆ ส่งตรงจากเกาหลี สินค้าอยู่เกาหลี มาเพื่อคุณทุกท่านที่หลงไหล K-Pop เป็นชีวิตจิตใจ สไตล์เกาหลีแน่นอน ไม่มีเปลี่ยน Packaging แน่นอน ยังไงเพื่อน ๆ ลองเข้าไปอุดหนุนได้น่ะค่ะ สินค้าที่เราเลือกส่วนใหญ่เป็นเกรด A และ เกรด B ไม่มีต่ำไปกว่านี้แน่นอนค่ะ


อีกเว็บไซต์หนึ่ง คือ www.healthybeautydd.com เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสุขภาพความงาม สินค้าที่มีคุณภาพ สินค้าไทยยอดนิยม สินค้า OTOP เราต้องการสนับสนุนสินค้าไทยให้ก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกี่ยวกับ การดูแลผิวหน้า การดูแลผิวกาย เส้นผม หรือจะเป็นอาหารเสริม
โปรดติดตามโปรโมชั่นเราได้เร็ว ๆ นี่ค่ะ

เพิ่งถอย"แท็บเล็ต" ช่วยแนะนำวิธีดูแลให้อยู่นานๆ


กระแสแท็บเล็ตยังคงแรงต่อเนื่อง ไม่เฉพาะผู้นำอย่าง iPad เท่านั้น แต่รวมถึง"แท็บเล็ต"สายพันธุ์ Android ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจ แม้กระทั่งเด็กป.1 ยังจะมีโอกาสได้ใช้แท็บเล็ตพวกนี้ด้วยเหมือนกัน ประเด็นคือ แล้วเราจะดูแลมันอย่างไร เพื่อให้ใช้ได้นานที่สุด คำแนะนำง่ายๆ ต่อไปนี้ น่าจะช่วยคุณได้นะครับ

ข่าวดีสำหรับผู้ใช้แท็บเล็ตก็คือ มันไม่ต้องการดูแลเท่ากับคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีรอบการดูแลบำรุงรักษาให้มันมีประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็ว และแข็งแรงอยู่เสมอ เนื่องจากแท็บเล็ตใช้หน่วยความจำแฟลช ในขณะที่โน้ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ใช้ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งต้องมีการจัดระเบียบข้อมูลอยู่เป็นประจำ หากไม่ดูแลจัดการเรื่องนี้ เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ระบบการทำงานจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการบนแท็บเล็ตส่วนใหญ่จะจัดการล้างไฟล์ชั่วคราวออกจากสตอเรจเองโดยอัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้เองยังไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ผู้ใช้ควรดูแลเรื่องอะไรบ้าง? เพื่อให้แท็บเล็ตอยู่กับเรานานๆ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำมีดังนี้ครับ


ลบแอพพลิเคชันที่ไม่ใช้ออกไป: แม้แอพพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเร็วในการทำงานของแท็บเล็ตโดยตรง แต่พวกมันทำให้พื้นที่ของสตอเรจลดลง ดังนั้นหากคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip พบว่า แอพฯ บางตัวบนแท็บเล็ตไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้อีกต่อไปแล้ว แนะนำให้ถอดถอนการติดตั้ง (uninstall) ออกไปจากเครื่องซะจะดีกว่าครับ


ทำความสะอาดเครื่อง: หน้าจอสัมผัสที่เป็นกระจกแก้วสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายด้วยผ้าเช็ดไมโครไฟเบอร์ และน้ำยาเข็ดหน้าจอ LCD นอกจากนี้ คุณต้องไม่ลืมส่วนทีมักจะถูกละเลยในการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำอย่างเช่น พอร์ตเชื่อมต่อ ด็อคกิ้ง และช่องเสียบหูฟัง การใช้แปรงทำความสะอาดที่พ่นลมออกมาได้จะเป็นแบบสเปรย์ หรือลูกยางที่ใช้บีบก็ได้ ด้วยวิธีนี้มันจะช่วยเป่าสิ่งสกปรก หรือเศษฝุ่นชิ้นเล็กๆ ที่ติดอยู่ในพอร์ตให้หลุดออกมาได้ นอกจากนี้ คุณอาจจะใช้เทปใสในการกำจัดคราบ หรือสิ่งสกปรกที่อยู่รอบๆ ปุ่มต่างๆ ของแท็บเล็ตได้อีกด้วย


อย่าปล่อยให้แบตฯ หมดโดยไม่ถูกชาร์จนานเกินไป: แบตเตอรี่ทีใช้ในแท็บเล็ตส่วนใหญ่จะเสื่อมประสิทธิภาพได้หากปล่อยให้มันมีระดับของประจุไฟฟ้าทีอยู่ภายในต่ำเกินไป หากคุณมีโอกาสที่จะไม่ได้ใช้แท็บเล็ตเป็นเวลานาน ควรจะแน่ใจว่า มันมีแบตฯ อยู่อย่างน้อย 50% ตอนที่ปิดเครื่อง (turn off ไม่ใช่ standby นะครับ)



สำหรับแท็บเล็ต Android ควรจะต้อง... : ระวังเรื่องเกี่ยวกับการติด"มัลแวร์" และ "ไวรัส" ให้มากๆ ดังนั้น ผู้ใช้แท็บเล็ตแอนดรอยด์ควรจะติดตั้ง และรันแอพพลิเคชันสแกนไวรัสไว้ในเครื่องด้วย ตัวเลือกสำหรับคนชอบของฟรีที่นิยมใช้กันพอสมควรก็จะมี AVG Antivirus Free for Android ดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store.

หวังว่า คำแนะนำข้างต้นคงจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านเว็บไซต์ arip ทีใช้แท็บเล็ตกันถ้วนหน้า ขอให้ทุกท่านโชคดี และมีความสุขสนุกกับการใช้แท็บเล็ตกันไปได้อีกนานๆ นะครับ แล้วพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการครับ :D

ที่มาจาก: http://www.arip.co.th/