มีคนสอบถามหลังไมค์ มายังคนออฟฟิศเยอะเหลือเกิ๊น
ว่าถ้าเปิดร้านจะเปิดกับที่ไหนดี
แล้วเปิดที่ไหนถึงจะคุ้ม อันนี้ก็ตอบยากจริง ๆ
น่ะ เปิดที่ไหนถึงจะคุ้ม เราต้องคำนวณ
ถึงจำนวนสินค้าที่เรามี
และกำไรสินค้าต่อชิ้นเรานั้นอยู่ที่เท่าไหร่
การเปิดร้านค้า ไม่ใช่จะเปิดที่ไหนก็เปิดได้น่ะค่ะ เพราะบางที เราเปิดไปแล้วแต่
ต้นทุนไม่คุ้มกับกำไร
ดังนั้นวันนี้ Khonoffice ได้ทำการค้นหาข้อมูลมาให้เพื่อน
ๆ ได้ทราบกันค่ะ พิจารณาจะเปิดจากที่ไหน ก็ลองดูน่ะ
Khonoffice ไม่ได้มีส่วนได้
ส่วนเสียอะไรจากการนำข้อมูลเหล่านี้ทั้งนั้น ดังนั้นมาเริ่มกันเลย
1. เปิดร้านกับ weloveshopping.com
การเปิดร้านกับ weloveshopping.com
คงไม่มีใครไม่รู้จักกันใช่ไหมค่ะ เป็นอีกนึงธุรกิจในเครือ True ที่เพิ่ง TakeOver
มา
แล้วนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งเป็นไปได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว
หลักการทำงานของ Weloveshopping
1. เราต้องสมัครสมาชิก
เพื่อทำการเปิดร้านค้าออนไลน์
2. เลือก Package การเปิดร้าน ที่มีให้เลือกถึง 5
Package
- Free Package ฟรี จำนวนสินค้า 30 ชิ้น เหมาะสำหรับร้านเล็ก ๆ
ที่ต้องเปิดร้านเพื่อทดลองขายสินค้า แต่มีข้อจำกัดอีกเยอะแยะมากมาย เช่น
การทำการตลาด การทำ SEO ที่ยังไม่สนับสนุน
ซึ่งเราต้องเพิ่มเงินในส่วนของการโฆษณาตรงนี้อีก
- Standard เสียค่าใช้จ่าย
400/ปี จำนวนสินค้า 50 ชิ้น เหมาะสำหรับร้านค้าที่กลาง ๆ
- Premium
เสียค่าใช้จ่าย 700/6 เดือน 1,200/ปี จำนวนสินค้า 200 ชิ้น
- Exclusive
มีให้เลือกหลายแบบ หลายราคา 1,000/6เดือน 1,800บาท/ปี ลงสินค้าได้ 100 ชิ้น
แถมใช้ชื่อโดเมนเป็นของตนเองได้ด้วย
- Platinum 5,500 บาท/ปี
ลงข้อมูลได้อย่างไม่จำกัด ใช้ชื่อโดเมนเป็นของตนเองได้ด้วย
3.
ลูกค้าสามารถชำระเงินให้กับผู้ขายได้โดยตรง หรือจะชำระค่าสินค้าผ่านระบบ WeTrust
โดยจะเสียค่าธรรมเนียม ประมาณ 4.75% ของยอดรายได้ ซึ่งระบบ WeTrust นี่
จะสร้างความเชื่อมั่นทางด้านผู้ซื้อและผู้ขายได้ว่า จะได้รับผู้ซื้อจะได้รับสินค้า
และผู้ขายจะได้รับเงินค่าสินค้าแน่นอน
วันนี้เอาไปก่อนแคนี้แล้วกันน่ะค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะนำรายละเอียด อีก 2 เว็บคือ
Tarad.com และ shopping.sanook.com มาให้พิจารณาอีกน่ะค่ะ ที่เว็บไซต์
weloveshopping เปิดไม่ยาก แต่ก็มีหลายคนที่เปิดแล้ว ก็ไม่เข้าไปทำอะไร
ไม่ทำการตลาด แล้วจะขายสินค้าได้อย่างไร ยังไงลองวางแผนให้ดีก่อนน่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น